การผันวรรณยุกต์
การผันวรรณยุกต์ หมายถึง
การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ของพยางค์ที่ประกอบด้วยพยัญชนะต้นกับสระ
หรือพยัญชนะต้นกับสระ
และตัวสะกดอย่างเดียวกันใส่รูปวรรณยุกต์ต่างกันตามที่ปรากฏเป็นพยางค์ในภาษาไทยได้
เช่น
ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า
กาง ก่าง ก้าง ก๊าง ก๋าง
ขา ข่า ข้า
ขาว ข่าว ข้าว ๋
เรือ เรื่อ เรื้อ
คาว ค่าว ค้าว เป็นต้น
ในการผันวรรณยุกต์นั้นต้องเข้าใจว่า
พยางค์ทุกพยางค์มีพื้นเสียงอยู่แล้ว คือ
มีเสียงวรรณยุกต์อยู่โดยไม่ต้องมีรูปวรรณยุกต์ เช่น
ปา
มีเสียงวรรณยุกต์สามัญ
ปัก มีเสียงวรรณยุกต์เอก
ชาด
มีเสียงวรรณยุกต์โท
รัก มีเสียงวรรณยุกต์ตรี
ขาว มีเสียงวรรณยุกต์จัตวา
พยางค์จะผันวรรณยุกต์ใดได้ขึ้นอยู่กับหมู่อักษรของพยัญชนะต้น
ลักษณะพยางค์ที่เป็นคําเป็นคำตายและสระสั้นหรือยาวของพยางค์ที่เป็นคำตายนั้น
เสียงวรรณยุกต์และรูปวรรณยุกต์
วรรณยุกต์ประกอบด้วยเสียงวรรณยุกต์และรูปวรรณยุกต์
เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง
ระดับสูงต่ำของเสียงที่ปรากฏในพยางค์หรือในคำและทำให้มี คำมีความหมายแตกต่างกัน
เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมี ๕ เสียง คือ สามัญ
เอก โท ตรี จัตวา
รูปวรรณยุกต์มี ๔ รูป คือ ่ รูปคือ ่ (ไม้เอก), ้
(ไม้โท), ๊ (ไม้ตรี), ๋ (ไม้จัตวา)
พยางค์จะผันวรรณยุกต์ใดได้ขึ้นอยู่กับ
๑. หมู่อักษรของพยัญชนะต้น (อักษรกลาง อักษรสูง อักษรต่ำ)
๒. ลักษณะพยานที่เป็น คําเป็น หรือคำตาย
๓. สระเสียงสั้นหรือเสียงยาวของพยางค์ที่เป็นคำตาย
๔. รูปวรรณยุกต์
คำเป็น หมายถึง เป็นพยางค์ที่ประสมกับสระเสียงยาวอยู่ในมาตรา แม่ก.กา
และมีพยัญชนะที่มีตัวสะกดอยู่ในมาตราแม่กง กน กม เกอย เกอว (นมยวง)
คำตาย หมายถึง
เป็นพยางค์ที่ประสมกับสระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกดอยู่ในมาตราแม่ ก.กา
และมีพยางค์ที่มีพยัญชนะสะกดอยู่ในแม่กก กด กบ (กบด)
การผันอักษรกลาง
พยางค์ที่มีอักษรกลางเป็นพยัญชนะต้นและเป็นคำเป็นจะผ่านได้ทุกเสียง
รูปวรรณยุกต์กับเสียงวรรณยุกต์จะตรงกัน
อักษรกลางคำเป็นจึงใช้เป็นคำเรียกเสียงวรรณยุกต์ได้
อักษรกลางคำเป็น พื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ
ผันได้ ๕ เสียง ได้แก่ สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ใส่รูปวรรณยุกต์เอกเป็นเสียงเอก
ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงโท ใส่รูปวรรณยุกต์ตรีเป็นเสียงตรี
ใส่รูปวรรณยุกต์จัตวาเป็นเสียงจัตวา เช่น ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า
อักษรกลางคำตาย พื้นเสียงเป็นเสียงเอก
ผันได้ ๔ เสียง ได้แก่ สามัญ โท ตรี จัตวา ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงโท
ใส่รูปวรรณยุกต์ตรีเป็นเสียงตรี ใส่รูปวรรณยุกต์จัตวาเป็นเสียงจัตวา เช่น จะ จ้ะ
จ๊ะ จ๋ะ
หมายเหตุ โปรดสังเกตว่าอักษรกลางคำตายที่ผันด้วยวรรณยุกต์จัตวา
ไม่มีคำใช้ในภาษาไทย
การผันอักษรสูง
อักษรสูงคำเป็น พื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา ผันได้ ๓ เสียง ได้แก่ เอก
โท จัตวา ใส่รูปวรรณยุกต์เอกเป็นเสียงเอก ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงโท เช่น ขา
ข่า ข้า
อักษรสูงคำตาย พื้นเสียงเป้นเสียงเอก
ผันได้ ๒ เสียง ได้แก่ เอก โท ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงโท เช่น ผัด ผั้ด
การผันอักษรต่ำ
อักษรต่ำคำเป็น พื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ผันได้ ๓ เสียง ได้แก่ สามัญ เอก โท
ใส่รูปวรรณยุกต์เอกเป็นเสียงโท ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงตรี เช่น คา ค่า ค้า
อักษรต่ำคำตายสระเสียงสั้น พื้นเสียงเป็นเสียงตรี ผันได้ ๓ เสียง ได้แก่ โท
ตรี จัตวา ใส่รูปวรรณยุกต์เอกเป็นเสียงโท ใส่รูปวรรณยุกต์จัตวาเป็นเสียงจัตวา เช่น
คะ ค่ะ
หมายเหตุ โปรดสังเกตว่า อักษรต่ำคำตายสระสั้น
ที่ผันด้วยวรรณยุกต์จัตวาไม่มีคำใช้ในภาษาไทย
อักษรต่ำคำตายสระเสียงยาว พื้นเสียงเป็นเสียงโท ผันได้ ๒ เสียง ได้แก่ โท
ตรี ใส่รูปวรรณยุกต์โทเป็นเสียงตรี เช่น วาก ว้าก
หมายเหตุ โปรดสังเกตว่า
อักษรต่ำคำตายสระเสียงยาวที่ผันด้วยวรรณยุกต์จัตวาไม่มีคำใช้ในภาษาไทย
การผันอักษรคู่และอักษรเดี่ยว
อักษรคู่
อักษรคู่คำเป็น ผันได้ ๓ เสียง คือ สามัญ โท ตรี(คา ค่า ค้า) อักษรสูงคำเป็น ผันได้
๓ เสียง คือ สามัญ เอก โท (ขา ข่า ข้า)
เมื่อรวมคู่กับอักษรสูงเข้าด้วยกันก็จะผันได้ครบ ๕ เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรี
จัตวา เช่น คา
ข่า ค่า/ข้า ค้า ขา
อักษรคู่คำตาย ผันได้ ๒ เสียง คือ เอก
โท (คะ ค่ะ) อักษรสูงคำตายผันได้ ๒ เสียง คือ โท ตรี (ขะ ข้ะ)
เมื่อรวมอักษรคู่กับอักษรสูงเข้าด้วยกันจะผันได้ ๔ เสียง ไม่มีเสียงสามัญ คือ เอก โท ตรี จัตวา เช่น ขะ
ค่ะ/ข้ะ คะ
อักษรเดี่ยว
อักษรเดี่ยวคำเป็น ผันได้ ๓ เสียง คือ สามัญ โท ตรี เมื่อใช้ ห นำ
จะทำให้ผันได้ครบ ๕ เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรี จัตวา เช่น นา หน่า น่า/หน้า น้า หนา
อักษรเดี่ยวคำตายสระสั้น ผันได้ ๒ เสียง คือ โท
ตรี ( น่ะ นะ) เมื่อใช้ ห นำจะทำให้ผันได้ ๓ เสียง คือ เอก โท ตรี เช่น หนะ
น่ะ/หน้ะ นะ
อักษรเดี่ยวคำตายสระสั้น ผันได้ ๒ เสียง คือ โท
ตรี (วาก ว้าก) เมื่อใช้ ห นำ จะทำให้ผันได้ ๓ เสียง
คิอ เอก โท ตรี เช่น หนะ น่ะ/หน้ะ
นะ
มี ๔ คำ ที่มีตัว
ย เป็นพยัญชนะต้น กำหนดให้ใช้ อ นำ ออกเสียงได้เหมือนใช้ ห นำ คือ อย่า อยู่
อย่าง อยาก องค์ดำที่มีเสียงวรรณยุกต์เอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น